Thursday 9 April 2015

ฉบับเยือนเล้าไก่

When Saturday Comes: ฉบับเยือนเล้าไก่


สวัสดีครับเพื่อนๆ พี่ๆน้องๆ ทุกคน ก็กลับมาพบกันอีกครั้งกับฉบับที่ 2 ของ When Saturday Comes นะครับเนื่องจากช่วงที่ผ่านมาเป็นวันหยุดยาวเทศกาล Easter หรือวันฟื้นคืนชีพของพระเยซู ซึ่งมหาลัยที่นี่ก็ปิดกันร่วมๆเดือน ทางบ้านผมก็เลยถือโอกาสมาเยี่ยม (จริงๆแล้วแอบหนีมาเที่ยวมากกว่า ฮาฮา) ก็เป็นครั้งแรกที่ไดัเจอพ่อแม่นับตั้งแต่บ๊ายบายกันที่สุวรรณภูมิเลยครับ พูดแล้วก็คิดถึงเมืองไทยขึ้นมา ก็กว่า 9 เดือนละครับที่มาฝังตัวอยู่ในแดนผู้ดี
            จริงๆแล้วที่พูดมายืดยาวนี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องของเราวันนี้เลยครับ (อ้าว แล้วพูดเพื่อ? ==) คือมันมีอยู่นิดเดียวตรงที่วันสุดท้ายตอนไปส่งพ่อแม่กลับสยามเมืองยิ้มเนี่ย ผมดันกะเวลาไม่ดีทำให้ต้องรอรถไฟเพื่อกลับ Manchester ร่วมๆ 5 ชั่วโมง!! คราวนี้ทำไงดีล่ะ? จะให้นั่งเฉยๆรอเวลาก็ไม่ดี จะไปเดินชอปปิ้งก็ไม่ใช่แนว เอางี้ละกันไปเดินถ่ายรูปเล่นที่สนามบอลซักสนามตามประสาคนบ้าบอลดีกว่า ทีนี้สนามไหนดีล่ะ Stamford Bridge, Emirate Stadium, Wembley ตัดไปพวกนี้เคยไปมาแล้ว ตัวเลือกแรกก็เลยเป็น White Hart Lane ของ Tottenham Hotspur เหตุผลก็ง่ายๆครับ คือยังไม่เคยไปแค่นั้น พอตัดสินใจได้ปุ๊ปก็กดถามทางอากู๋ปั๊ป สรุปเวลาการเดินทางทั้งหมดจาก Heathrow Airport ไปถึงสนามนี่สิริรวมแล้วประมาณ 1ชั่วโมงครึ่ง ป๊าดดด!! ไกลโพด เลยเปลี่ยนเป้าหมายไป Boleyn Ground บ้านของ West Ham United แทน (พวกเราจะคุ้นชื่อ Upton Park กันมากกว่าแต่จริงๆแล้วชื่อสนามอย่างเป็นทางการคือ Boleyn Ground ครับ)  อากู๋กลับมาอีกครั้งพร้อมกับคำตอบใกล้เคียงกับเป้าหมายแรก ผมเริ่มโอดครวญในใจ มันจะไม่มีสนามบอลแถวๆ West London เลยหรือไงวะ เอ๊ย ครับ!! ว่าแล้วไหนๆมันก็ไกลพอๆกัน เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาผมก็เลยตัดสินใจขึ้นไปทางตอนเหนือของ London เพื่อเยี่ยมชมเล้าไก่สนอง Need ของคนบ้าบอลครับ

บรรยากาศหน้าสนาม White Hart Lane

           พูดถึง Spurs ในความทรงจำของผมเนี่ย ทีมๆนี้เป็นทีมที่เล่นฟุตบอลสนุกมาแทบทุกยุคสมัย ไม่ว่าจะเปลี่ยนผู้จัดการไปกี่คน (เอาเท่าที่ผมทันดูนะครับ) จุดขายของไก่เดือยทองเป็นการเล่นฟุตบอลในสไตล์ที่ผมนิยามมันว่า เล่นแบบเดินหน้าฆ่ามัน แม้หลายครั้งจะโดนสวนจนน็อก แต่ไม่ว่ายังไงชื่อของ Tottenham Hotspur ก็การันตีว่าใครที่ตีตั๋วเข้ามาดูจะได้ดูฟุตบอลที่สนุกหลายอารมณ์และหลายประตูอย่างแน่นอน ผมเคยแอบเอาใจช่วย Spurs แทบทุกๆนัดในฤดูกาลที่พวกเขามี Rafael Van Der Vaart, Aaron Lennon, Luka Modric, Scott Parker และ Gareth Bale เป็นตัวชูโรง แม้สุดท้ายปีนั้นทีมของจ่าแฮรี่จะชวดไปเตะถ้วยใหญ่ของยุโรป แต่ผมเชื่อว่า Spurs ตอนนั้นชนะใจใครหลายๆคนรวมถึงผมด้วย การมาเยือน White Hart Lane ของผมคราวนี้ก็เลยคล้ายๆกับว่าได้มาดูสังเวียนแข้งของทีมที่ครั้งนึงเราเคยเอาใจช่วยอยู่แทบทุกสัปดาห์ด้วยครับ


Bill Nicholson way ถนนหน้าสนาม White Hart Lane

            การเดินทางไปสนามสำหรับช่วงเวลาเร่งด่วนใน London 5-6 โมงเย็นแบบนี้สะดวกและรวดเร็วสุดก็ต้องลง Tube เท่านั้นครับ (คนที่นี่เค้าจะเรียกรถไฟใต้ดินกันว่า Tube ครับ ผมเดาว่าลักษณะมันเหมือนรถไฟวิ่งตามท่อเค้าเลยเรียกอย่างนั้น) ตั้งต้นที่สาย Piccadilly Line จาก สถานี Heathrow ผ่ากลาง London มาต่อรถที่สถานี Green Park เพื่อเปลี่ยนไปใช้สาย Victoria Line โดยจุดหมายปลายทางของเราวันนี้อยู่ที่สถานี Seven Sisters ครับ 


ใครจะมา White Hart Lane มาขึ้นที่สถานีนี้เลยครับ

             สำหรับการเดินทางต่อจากสถานี Seven Sisters ต่อไปที่สนามมันก็ไปได้ 2 แบบครับคือ แบบเหนื่อยและแบบไม่เหนื่อย ถ้าแบบเหนื่อยก็คือหลังจากออกจากสถานี (ใช้ทางออกที่1จะเห็นป้ายบอกทางไปสนามอยู่) เราก็เลี้ยวซ้ายแล้วก็เดินตรงยาวไปเลยครับ เจอแยกเจอซอยเล็กซอยน้อยไม่ต้องไปแคร์ตรงลูกเดียวครับ จากสถานีถึงสนามจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงตามคำทำนายของอากู๋ ส่วนแบบไม่เหนื่อยนี่เราก็ขึ้นรถเมล์เอาโดยขึ้นที่ป้ายรถเมล์หน้าสถานีตรงทางออกที่ 1 นั่นแหละครับ ขึ้นสายอะไรก็ได้ที่มีเลข9 ลงท้ายรับรองว่าผ่านหมด สำหรับผมเพื่อเป็นการทรมานสังขารก็เลยเลือกเดินเอาครับ ซึ่งข้อดีของการเดินก็คือนอกจากจะประหยัดตังในกระเป๋าแล้ว เรายังมีโอกาสได้เดินชมวิถีชีวิต สภาพบ้านเรือนริมทางไปด้วย เรียกว่าเดินไปเรื่อยๆเหนื่อยก็พัก ชิวดีครับ


White Hart Lane ตรงยาวๆไป

            สนาม White Hart Lane เนี่ยตั้งอยู่ในย่าน Tottenham ซึ่งก็เริ่มจะเป็นชานเมืองของ London ดังนั้นแถวนี้ก็จะไม่มีตึกสูงๆให้เห็นเหมือนในตัวเมือง ส่วนมากตามริมทางก็จะเป็นอาคารที่อยู่อาศัย แล้วก็ร้านค้าต่างๆ ตอนที่ผมไปถึงละแวกนั้นก็ประมาณทุ่มนึงได้ ร้านค้าต่างๆก็ปิดไปเยอะแล้ว บรรยากาศมันเลยดูหงอยๆไปนิด แต่ถ้าวันที่มีบอลเตะคิดว่ามันน่าจะคึกคักมากๆแน่ๆเพราะถนนเส้นที่มุ่งหน้าไปสนามเนี่ยสองข้างทางจะมีผับเป็นระยะๆ แต่ละผับนี่ก็ประกาศตัวว่าเป็น Tottenham สุดๆ ยิ่งใกล้สนามมากเท่าไหร่ก็จะมีผับมากขึ้นเท่านั้น อ้อ! ต้องบอกเพื่อนๆก่อนว่าผับที่นี่จะไม่เหมือนผับบ้านเรานะครับ ผับที่นี่จะเป็นแบบบาร์เบียร์แล้วส่วนใหญ่ก็จะไม่เปิดเพลงหรือถ้าเปิดก็จะเป็นแนวเบาหน่อย เข้ากับวัฒนธรรมดื่มเบียร์เชียร์บอลของเค้าล่ะครับ นอกจากผับที่เรียงรายกันเต็มไปหมดแล้วร้านอีกประเภทที่มีเยอะก็คือร้านพนัน โดยที่นี่การพนันเค้าถือว่าถูกกฏหมายนะครับ ใครใคร่แทงอะไรก็ตามสบายถ้าจะเข้ามาดูบอลเฉยๆก็ไม่ว่ากันแต่กติกาก็คือต้อง18+ เท่านั้นถึงจะเข้าได้ไม่มียกเว้นครับ


ร้านรับพนันตามรายทาง

            หลังจากที่เดินมาซักพักจนเหงื่อเริ่มซึม (เพราะแบกเป้กับถุงใบเขื่องอีก 2 ใบ เรียกว่าไม่บ้าบอลจริงไม่มานะเนี่ย) ผมก็มาถึงสนามจนได้ ความรู้สึกแรกที่ผมเห็นตัวสนามก็คือมันดูเก่า แต่ไม่มีมนต์ขลังเอาซะเลย (ขออภัย Yid Army นะครับที่ผมพูดตรงๆ) คือว่ามันเป็นสนามทรงกล่องสี่เหลี่ยมแบบสนามโบราณของอังกฤษนั่นแหละ แต่ละด้านก็เหมือนๆกันมีแค่ป้ายที่ติดอยู่ที่ตัวสแตนด์เพื่อแยกว่านี่ฝั่ง North ฝั่งอะไรก็ว่ากันไป ทีนี้เท่าที่ผมสังเกตุแต่ละสนามที่ผมเคยได้ไปสัมผัสเนี่ย แต่ละที่ก็จะมีการบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองผ่านทางสิ่งของต่างๆไม่ว่าจะเป็นป้าย รูปปั้นต่างๆ แต่ที่ White Hart Lane นี่มีน้อยมากครับ คือผมไม่เห็นรูปปั้นของที่นี่เลย (คือถ้ามันมีผมขออภัยนะครับ) แล้วเท่าที่ผมเดินวนรอบสนามไป1รอบ ผมก็พบว่ามันเหมือนกันจนน่าเบื่อไปนิด อย่างที่บอกครับมันดูไม่มีเรื่องราวซักเท่าไหร่ คือมันอาจจะเป็นเพราะว่ามันไม่ใช่วันแข่ง แถมตอนที่ไปถึงทุกอย่างก็ปิดหมดแล้วด้วยมันเลยทึมๆเป็นพิเศษ



อัฒจรรย์ฝั่งทิศใต้

            สิ่งที่น่าสนใจที่สุดของการไปเยือนเล้าไก่คราวนี้คงจะเป็นสนามใหม่ที่กำลังสร้างอยู่ข้างๆสนามเดิมนั่นแหละครับ สำหรับชื่อสนามใหม่เนี่ยก็ยังไม่รู้ว่าจะใช้ชื่อว่า White Hart Lane เหมือนเดิม เพราะตั้งอยู่แทบจะที่เดียวกันซะขนาดนั้น หรือจะเปลี่ยนชื่อตามสปอนเซอร์ตามสมัยนิยม นึกดูเล่นๆถ้า KFC เข้ามาสนับสนุนเป็น Title Sponsor ของสนามคงสนุกพิลึก อารมณ์ว่าท่านผู้ชมครับวันนี้นำทุกท่านไปที่สนามของไก่เดือยทอง KFC Stadium ความคิดแวบแรกของผมคือมันต้องกรอบมากแน่ๆ ฮาฮา เอ้า!! กลับเข้าเรื่องกันก่อนครับ คือไอสนามใหม่ที่ว่าเนี่ยมันจะถูกสร้างอยู่ข้างๆ White Hart Lane เลยครับ เท่าที่ผมเห็น (วันที่ 8/4/15) ที่ดินรอบๆก็มีการล้อมรั้วไว้หมดแล้ว มองเข้าไปก็จะเห็นเครื่องจักรต่างๆอยู่ด้านในเป็นนิมิตรหมายว่าสร้างจริงสร้างแน่ ตามแผนการที่ทางสโมสรนำโดยเฮียโป๊งเหน่งเลวี่วางไว้เนี่ยก็จะสร้างตัวสนามในส่วนที่เป็นที่ดินใหม่เป็นเฟสแรก หลังจากเสร็จแล้วจึงจะสร้างส่วนที่เหลือที่ต้องสร้างทับสนามเก่า (บางส่วน) เป็นเฟสสุดท้าย โดยคาดว่าจะเสร็จทันใช้ในฤดูกาล 2018/19

(ซ้าย) สนามปัจจุบัน (ขวา) สนามในอนาคต

สำหรับรูปร่างหน้าตาสนามใหม่ความจุ 56,000 ที่นั่งจัดว่าไฉไลสมกับที่โปรโมทว่าเป็น World class stadium ภายนอกออกแบบแลดู Modern แสงสีตระการตา ส่วนด้านในสนามจะมีลักษณะเป็นรูปโค้งตามเทรนด์ของสนามฟุตบอลยุคใหม่ อัฒจรรย์ด้านหลังประตูถูกออกแบบให้เป็นชั้นเดียวลาดยาวขึ้นไปเหมือน The Kop stand ที่ Anfield (จริงๆ แล้ว Kop Stand เนี่ยมักใช้เรียกอัฐจรรย์ชั้นเดียวที่สูงชันขึ้นไปตลอดแนวซึ่งสนามฟุตบอลหลายๆสนามในอังกฤษก็มี Kop stand เป็นของตัวเอง อย่างเช่นที่ Bramall Lane ของ Sheffield United ก็มี Kop stand) ดังนั้นถ้าสนามใหม่ของสเปอร์สสร้างเสร็จก็จะได้ชื่อว่ามี Kop stand เหมือนกันครับ


The Kop stand หลังประตู
(เครดิตภาพจาก www.tottenhamhotspur.com)

            ที่นี่การจะสร้างตัวสนามฟุตบอลแต่ละครั้งนอกจากเรื่องของตัวสนามเองแล้ว ยังต้องใส่ใจผลกระทบต่อชุมชนรอบข้างด้วยครับ คือไม่ใช่ว่าสร้างสนามจบแล้วก็จบกัน แต่สโมสรต้องมาดูด้วยว่าชุมชนรอบข้างจะได้อะไร อย่างสนามใหม่ของ Spurs ที่กำลังสร้างเนี่ย เค้าก็มีการวางแผนให้ตัวสนามและบริเวณรอบๆเป็นพื้นที่สาธารณะ ภายในโครงการจะมีทั้ง ร้านค้า สำนักงาน โรงเรียน ที่อยู่อาศัย ซึ่งรวมๆแล้วก็จะสร้างงาน การศึกษา และที่อยู่ให้กับคนท้องถิ่นได้อีกไม่น้อยเลยครับ



ป้ายโปรโมทสนามใหม่

            สรุปแล้วการมาเยือนเล้าไก่ครั้งนี้ถึงแม้จะน่าเสียดายไปนิดตรงที่มาถึงตอนที่อะไรๆก็ปิดไปหมดแล้ว แต่อย่างน้อยการได้เดินไปรอบๆสนามฟุตบอลสำหรับผมมันก็เป็นความสุขแล้วครับ และที่สำคัญก็คือการมาครั้งนี้เหมือนผมได้มายืนอยู่บนรอยต่อระหว่างอดีตกับอนาคตของทีมตราไก่ ที่กำลังจะย้ายจากบ้านเก่าไปยังเล้าใหม่มูลค่ากว่า 2,000 ล้านบาท ซึ่งแน่นอนว่ามันไม่ใช่แค่การย้ายบ้านธรรมดา แต่มันหมายถึงอนาคตและทิศทางของทีมด้วย แน่นอนว่าสนามใหม่กับความจุที่มากขึ้นย่อมหมายถึงทุนรอนที่มากขึ้นในการต่อสู้แย่งชิงพื้นที่ยุโรปจากบิ๊กทีมขาเก่าเจ้าประจำ ไม่แน่ว่า Tottenham Hotspur โฉมใหม่อาจจะเปลี่ยนจากทีมที่แค่เล่นฟุตบอลสนุกแต่ไม่มีความสำเร็จเป็นชิ้นเป็นอันเท่าไหร่กลายเป็นทีมที่ขาประจำในการแย่งชิงพื้นที่ UCL ซึ่งผูกขาดกันอยู่แค่ 4-5 ทีมตอนนี้ก็เป็นได้ครับ


สนามใหม่กำลังสร้าง


9/4/2015
Manchester, UK

2 comments:

  1. หวัดดีครับ ขอติดตามและเป็นกำลังใจให้ครับ เขียนสนุกน่าอ่านดีครับ แต่ขอแนะนำในฐานะคนเขียนบล็อกเหมือนกัน ว่าควรจะแบ่งเป็นย่อหน้าบ่อยๆ จะได้อ่านง่าย ไม่ติดพรืด จนตาลายครับ ^^

    ReplyDelete
    Replies
    1. ขอบคุณมากครับ ดีใจมากเลยที่มีคนอ่าน ยังไงเรื่องเว้นย่อหน้าผมจะเอาไปปรับคราวหน้านะครับ

      Delete